การใช้ IoT หรือ Internet of Things สำหรับ Marketing

This post is also available in: อังกฤษ

ปัจจุบันต้องยอมรับว่าด้วย Technologies ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว และก้าวกระโดด อุปกรณ์ Devices ประเภทIoT หรือ Internet of Things ก็เริ่มมีราคาถูกลง คุณภาพสูงขึ้น สามารถเชื่อมต่อข้อมูลกับฐานข้อมูลต่างๆได้ง่ายขึ้น

Growth in number of IoT devices globally

ปริมาณ IoT devices ในปี 2021 มีประมาณสองหมื่นแปดพันล้านชิ้น (28 Billion) โดยเป็น IoT ประเภท Callular IoT ที่เชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆได้ หรือเป็น IoT ที่ใช้เทคโนโลยีแบบระบบมือถือถึง หนึ่งพันห้าร้อยล้านชิ้น (1.5 Billion)

การนำ IoT หรือ Internet of Things มาใช้กับงานด้าน Marketing หรือการตลาด

สามารถแบ่งตามประเภทกิจกรรมการตลาดที่เอาไปใช้ หรือผลกระทบด้านการตลาดจาก IoT ที่น่าสนใจดังนี้

วิธีการค้นหาข้อมูลข่าวสารที่เปลี่ยนไป (Paradigm shift of Search Engine)
วิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค (Analyze Customer Behavior)
สินค้ากลายเป็นช่องทางโฆษณา (Product become advertise channel)
เชื่อมต่อข้อมูลโลกออฟไลน์ได้มากขึ้น (More Analytics and Attribution in Offline World)
Marketing Automation อาจมีประสิทธิภาพสูงขึ้น Conversion Rate ดีขึ้นจาก IoT Trigger
รูปแบบ Personalization ที่หลากหลาย ข้ามแพลตฟอร์ม

1.วิธีการค้นหาข้อมูลข่าวสารที่เปลี่ยนไป (Paradigm shift of Search Engine)

จากการที่มี IoT Devices หลายๆตัวเช่น Alexa หรือ Siri มีความสามารถในการรองรับการสั่งการด้วยเสียง ทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเริ่มมีการใช้ Devices เหล่านี้ค้นหาข้อมูลต่างๆด้วยเสียง (Voice Search)

ทั้งนี้รูปแบบการทำ Search Optimization หรือ SEO จะมีการเปลี่ยนแปลงไปคือ นักการตลาดอาจจะต้องมีการทำ On-Page Optimization โดยคำนึงถึง Intent-Based ของ User มากกว่า Keyword-Based เหมือนที่ผ่านมา

Intent คือสิ่งที่ User มองหาเช่นคำว่า “กาแฟ”
Context คือเหตุผลที่ User มองหากาแฟ อาจจะเป็น “หาร้านกาแฟ”,”หาวิธีชงกาแฟ” ก็ได้
Asset คือเรามีอะไรรองรับ Search Intent นั้นๆบ้าง ไม่ว่าจะเป็น “Video สอนชงกาแฟ”,”หน้าBlog Review ร้านกาแฟ”,”Web Directory ที่รวมร้านกาแฟทั่วประเทศ”,”ตำแหน่งร้านกาแฟของเรา”
Channel คือช่องทางที่ Asset เราจะไปแสดง เช่น Youtube, Medium, Google My Business
Optimization คือUser เหล่านั้นจะหาเราเจอได้อย่างไร ไม่ว่าจะเป็นการทำ “On-page optmization”,”การหาทางเพิ่มคะแนน Reviewใน Google My Business, การทำ Youtube Optimization
Ascension คือการคาดการณ์ว่า User ดำเนินการอะไรในขั้นตอนต่อไป เช่นกด Get Direction ในGoogle My Business

2.วิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค (Analyze Customer Behavior)

เนื่องจาก IoT devices บางประเภทเช่น Beacon มีความสามารถในการเชื่อมต่อกับSmartphone Devices ได้ ทำให้เราสามารถติดตามพฤติกรรม Offline ของลูกค้าได้ นึกภาพตามว่าเราเป็นห้างสรรพสินค้าชื่อดัง และมี Application ของตัวเอง ทันทีที่ลูกค้ารายนั้นๆเข้ามาที่ห้างของเรา IoT Devices ของเราก็สามารถเชื่อมต่อกับ Smartphone ของลูกค้าได้ทำให้เราทราบว่า

ลูกค้ารายนั้นๆ เดินไปที่จุดที่ตำแหน่งสินค้าไหนบ้าง (In-store analytic)

และเนื่องจาก IoT เหล่านี้ เชื่อมต่อกับ Mobile Devices ของ User ที่มีการใช้งาน Application ของเราอยู่ด้วยทำให้เราสามารถยืนยัน (Verify) ได้อีกว่า User นั้นๆเป็นลูกค้ากลุ่ม Segmentation ไหนมีพฤติกรรมการซื้อสินค้าอย่างไรบ้าง

3. สินค้ากลายเป็นช่องทางโฆษณา (Product become advertise channel)

IOT as advertising — Amazon’s Dash Button

Amazon’s Dash คือ IoT หรือ Internet of Things ที่สามารถทำให้เรากดสั่งสินค้าที่จำเป็นในชีวิตประจำวันได้ เช่น เมื่อผงซักฟอกหมด เราสามารถกดปุ่มนี้ ที่ติดอยู่บนเครื่องซักผ้า ทาง Amazon จะจัดส่งผงซักฟอกมาให้เราถึงบ้าน

ลองนึกภาพว่าในอนาคตอันใกล้ พื้นที่เหล่านี้ล้วนเป็น Advetising Placement หรือพื้นที่โฆษณาได้ทั้งหมด วันนี้เราอาจ Bidding Ads เพื่อแย่งชิงพื้นที่เหล่านี้ก็เป็นได้

4. เชื่อมต่อข้อมูลโลกออฟไลน์ได้มากขึ้น (More Analytics and Attribution in Offline World)

ปัจจุบัน เรามี Devices มากมายที่มีความสามารถในการนำข้อมูล Offline ขึ้นไปเชื่อมต่อกับ Online ได้ในชีวิตประจำวันแล้ว เช่นการใช้ Smartwatch ในการเก็บสถิติการวิ่ง อัตราความเร็ว ไปแชร์ใน Social Media ผ่าน Strava Application

ในอนาคตเราอาจเชื่อมโยงข้อมูลจาก IoT ประเภทต่างๆทั้ง IP camera, RFID, หรือ Sensor ต่างๆ กับ Social Media ก็เป็นได้

5.Marketing Automation อาจมีประสิทธิภาพสูงขึ้น Conversion Rate ดีขึ้น จาก IoT Trigger

ปกติเรามีการทำ Marketing Automation เพื่อ Offer สินค้าและบริการ โดยยึด Trigger จาก Implicit Data หรือข้อมูลที่เราทึกทักเอาเองว่า เวลาUserมี Behavior ต่างๆเหล่านี้เช่น
– เข้ามาดูหน้าสินค้า 3 ครั้ง
– เข้ามากด Add to cart
เราก็เลยยึด Trigger เหล่านี้เป็นสัญญาณว่า User น่าจะอยู่จังหวะที่พร้อมซื้อสินค้า (Moment of Purchase)

🔥 แต่เมื่อเรามี IoT มาช่วยจับ Trigger เช่น
– หลอดไฟใกล้จะหมดอายุ สามารถส่ง Offer ให้ซื้อหลอดไฟใหม่ได้เลย โดยที่แนวโน้มของ Convertsion จะเป็น 100%.
– หรือกรณีลูกค้าเดินอยู่ใน Lotus และ IoT จับได้ว่าลูกค้าเดินวนอยู่ในชั้นขาย TV หลายรอบ และ Computer Vision ของกล้อง CCTV สามารถ detect อารมณ์และสีหน้าได้ว่าลูกค้ามีการมองสินค้าอย่างตั้งใจ เราก็สามารถ offer ส่วนลด ได้เพื่อช่วยเร่งการตัดสินใจซื้อสินค้า โดยสามารถทำได้ผ่าน App หรือผ่านชั้นวางสินค้าอัจฉริยะ หรือ Smart Shelves

Marketing Automation อาจมีประสิทธิภาพสูงขึ้น Conversion Rate ดีขึ้น จาก IoT Trigger — https://e2e.ti.com/blogs_/b/industrial_strength/posts/experience-seamless-shopping-thanks-to-smart-shelves

6. ประโยชน์ของ CRM และ Personalization จาก IoT

นึกภาพว่าเราไปเดินที่ห้าง Lotus ทันทีที่เราเดินผ่าน IoT sensor นั้น

Mobile Application ก็จะมีการแจ้ง Promoiton ส่วนลดต่างๆผ่าน In-app Notification ที่สามารถ Personalize หรือ Tailor สินค้าได้ตามประวัติการซื้อสินค้าของเราเอง
Email แจ้งเรื่อง Loyalty Point ที่กำลังหมดอายุ
หรือกรณีที่เราเป็นลูกค้ากลุ่ม VVIP ก็ให้ระบบ Alert ไปที่ผู้จัดการสาขา ให้เข้ามาดูแลเราแทนก็ได้ครับ