R-crm

กลยุทธ์ Digital CRM platform ตั้งแต่การเก็บLead, บริหาร Sale Pipeline และจัดการ Customer Data ด้วย ReadyPlanet – R-CRM

Customer Relation Management หรือ CRM คือการบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า โดยทั่วไปจะหมายถึงการทำ CRM เพื่อจุดประสงค์ ในการบริหารจัดการกลุ่มลูกค้าที่คาดหวัง หรือ Lead, Potential ให้เข้ามาสู่กระบวนการการขาย (Sale Pipeline) ทำให้เกิดดีลการขาย หรือ Opportunity ไปจนปิดการขาย (Convert หรือ Won Deal)

โดยคำว่า “CRM Platform” ในจุดประสงค์นี้คือ การใช้ระบบเพื่อบริหาร Sale Pipeline ครอบคลุมตั้งแต่การ ออกแบบ Technology งานให้มีประสิทธิภาพ, การใช้ Technology มาจัดการ Sale Pipeline ไปจนถึงการออกแบบวิธีการเก็บข้อมูลลูกค้า

CRM-database

R-CRM  แพลตฟอร์มบริหารทีมขาย ที่ออกแบบมาเพื่อธุรกิจไทย ซึ่งเป็น MarTech ที่พัฒนาโดยบริษัท ReadyPlanet บริษัทที่มีชื่อเสียงมายาวนาน จากแพลตฟอร์มสร้างเว็บไซต์ ที่มาพร้อมเครื่องมือการตลาดแบบ All-in-One

R-CRM logo
Logo ของ R-CRM

ช่วยให้ผู้บริหาร หรือ Sales Manager สามารถรู้เท่าทันการทำงานของทีมเซลส์ ว่ามีการทำงานจริงไหม ลูกค้าที่อยู่ใน Pipeline แต่ละขั้นตอนมีอะไรบ้าง รวมไปถึงสามารถวัดผลการทำงานและ Performance ทั้งโดยรวมและรายบุคคลได้อย่างเป็นระบบ

R-CRM

1.การจัดการ Lead และ Sale Pipeline
โดยเราสามารถแบ่ง Stage ของลูกค้าเป็น Stage ต่างๆ ตั้งแต่ได้รับข้อมูลการติดต่อเบื้องต้น ไปจนพิจารณาสินค้า และปิดการขาย

โดยข้อดีของการมีระบบ CRM ที่สามารถ Track Sale  Pipeline ได้ คือทำให้เราเห็นรอบการขายหรือ Sale Cycle ของลูกค้าในแต่ละ Stage และเราสามารถเห็นอัตราการ Convert ของลูกค้าในแต่ละ Stage  และในทางตรงกันข้ามเราก็เห็นการหลุดไปของลูกค้า หรือ Drop Off ในแต่ละ Stage ได้

ตัวอย่างการมีระบบ CRM ที่ดี
เราจะสามารถ Track การ Convert (และ Drop Off) ทำให้รู้ว่าเราควรให้ความสำคัญหรือแก้ไขปัญหาตรง Stage ไหน และการ Drop Off นั้นๆมีปัญหาจาก Factor อะไรเป็นต้น

drop-off R-CRM

2.การจัดกลุ่มลูกค้าหรือการ Segmentation
ในหลายๆกรณีโดยเฉพาะธุรกิจ B2B ที่ต้องมีการเสนอขายสินค้ากับองค์กรต่างๆ ทำให้ต้องติดต่อกับส่วนงาน (Unit) ของลูกค้าหลายภาคส่วน  แต่ละภาคส่วนก็มีบทบาทในการตัดสินใจซื้อสินค้าต่างกันออกไป เช่น

เราทำธุรกิจขาย Software ให้บริษัมขนาดใหญ่มีหลายๆหน่วยงาน อาจจะพบสถานการณ์ว่า หน่วยงานต่างๆมี Pain Point และความคาดหวังไม่เหมือนกัน เช่น

  • ผู้บริหารระดับสูงสนใจเรื่องของ Case Study ที่เคยทำ
  • ฝ่าย IT สนใจเรื่อง Security หรือความเสถียรของระบบ
  • ฝ่ายการตลาดสนใจเรื่อง Interface การใช้งานของระบบ

ดังนั้น ความสามารถในการใส่ป้ายกำกับ (Label) ของ R-CRM ช่วยให้เจ้าหน้าที่การตลาดหรือเซลส์ ทราบบทบาทความรับผิดชอบ ของผู้ติดต่อรายนั้น และอาจจะทราบด้วยว่าเราต้องใช้จุดขาย (Selling Point) อะไร ไปโน้มน้าวให้แต่ละคนตัดสินใจ หรือ Buy In ในสินค้าของเรา

r-crm-label

3. Workforce Tracking
ด้วยระบบ CRM ที่ดี ผู้บริหารหรือหัวหน้าฝ่ายการขาย ต้องสามารถติดตามผลการทำงานของเซลส์ได้ เช่น Trackได้ว่ามีการส่ง Email หาลูกค้าเรื่องอะไรบ้าง, มีการส่ง Proposal ให้ลูกค้าเมื่อไหร่, ส่งใบเสนอราคาให้ลูกค้าหรือยัง ด้วยการ Integrate ช่องทางการสื่อสารมาอยู่ในระบบ CRM

และอีกข้อดีของการใช้ R-CRM ก็คือมี Email Template ที่ส่วนกลางสามารถออกแบบเนื้อหา Email ให้เซลส์แต่ละคนใช้สื่อสารกับลูกค้าได้มาตรฐานเหมือนกันทุกคน

contact-integrate R-CRM

4.การจัดเก็บข้อมูลไว้ที่เดียว แต่ละส่วนงานเห็นข้อมูลตรงกัน
ในบางกรณี เราอาจจะมีการเปลี่ยนเซลส์ที่ดูแลลูกค้านั้นๆ กลางคัน ไม่ว่าจะเป็นลาออกของคนเก่า หรือการเปลี่ยนภาระหน้าที่การทำงาน

ข้อดีของการมีระบบ CRM อีกอย่างก็คือ เนื่องจากเรามีระบบที่จัดเก็บข้อมูลลูกค้าไว้ที่เดียวกันแล้ว ทำให้สถานะการติดต่อ ประเด็นต่างๆที่เซลส์เก่าคุยค้างไว้ เซลส์คนใหม่ก็สามารถมา Follow Up ต่อจากเซลส์คนเก่าได้ทันที

R-CRM มีระบบ Note ทำให้เราสามารถจัดเก็บประวัติการปฎิสัมพันธ์กับ Lead  ไม่ว่าจะเป็น Log การต่อรองราคา, เอกสารการโอนเงิน, ประเด็นความกังวลของ Lead แต่ละคน ทำให้ข้อมูลเหล่านี้ Centralize มาที่ศูนย์กลาง ไม่ว่าจะเปลี่ยนเซลส์กี่คน แต่ข้อมูลการปฎิสัมพันธ์กับ Lead นั้นๆ ก็ยังอยู่ในระบบ เซลส์คนอื่นมาทำงานได้ทันที

Noted-R-CRM

การจัดเก็บข้อมูลไว้ที่เดียว หรือ Centralize Database นอกจากการเก็บข้อมูลลูกค้าแล้ว ข้อมูลสินค้าก็ควรเก็บไว้ที่เดียวกันเช่นกัน เพื่อให้เซลส์แต่ละคนเห็นข้อมูลสินค้า ราคา โปรโมชัน ตรงกัน

และอีก 1 ข้อดีของการมีระบบ R-CRM ที่สามารถบริหารจัดการข้อมูลสินค้า (Product Management Information) ในที่เดียวได้ก็คือ เราสามารถวิเคราะห์ยอดขาย หรือSale Value แยกย่อยตามเซลส์ ตามประเภทสินค้า และตามช่วงเวลาได้อีกด้วย

pim R-CRM

นอกจากการ Centralize ข้อมูลลูกค้า ข้อมูลสินค้าแล้ว การรวบรวมเอกสารต่างๆ สำหรับกระบวนการทางบัญชี ไม่ว่าจะเป็นเอกสารใบเสนอราคา เอกสารใบวางบิล ระบบ CRM ที่ดีก็ควรจัดเก็บเอกสารเหล่านี้ไว้ได้ด้วยเช่นกัน

R-CRM ก็มีจุดแข็ง ในการบริหารจัดการเอกสารทางบัญชีเหล่านี้ได้เลยใน Platform ไม่ว่าจะเป็นการสร้าง Template ของเอกสารไว้ใช้หลายๆครั้ง, การดึงข้อมูลสินค้า และราคามาใช้ในเอกสารได้โดยง่าย เซลส์ไม่ต้องป้อนข้อมูลใหม่ทุกครั้ง

และการจัดการส่วนลด ก็ดึงมาจาก Platform เซลส์แต่ละคนจะทราบถึงส่วนลดสูงสุด ของสินค้าแต่ละชิ้นได้ในที่เดียว

quotation R-CRM

5.การวิเคราะห์ข้อมูล และประสิทธิภาพงานขาย
อีกจุดที่ระบบ R-CRM ช่วยได้คือ จากการที่ R-CRM สามารถ Track ขั้นตอนการขาย, รอบเวลาในการขายสินค้าแต่ละประเภท, การรวมรายละเอียดราคา และโปรโมชั่นสินค้าไว้ในระบบ R-CRM ทำให้เราสามารถวิเคราะห์ประสิทธิภาพการขายจากข้อมูล Analytic ต่างๆได้เช่น

• ภาพรวมการขายในแต่ละเดือน / ไตรมาส / ปี
• สัดส่วนการขายสินค้าแต่ละรุ่น
• ประสิทธิภาพของ Sale Pipeline
• ภาพรวมของ Lead แต่ละ segmentation (Labelที่เรากำกับ)
• วิเคราะห์ดีลที่ขายและไม่ขาย
• รอบการขายหรือ Sale Cycle
• ภาพรวมกิจกรรมของเจ้าหน้าที่ฝ่ายขาย

r-insights R-CRM

ส่วน Feature อื่นๆ ที่ ReadyPlanet R-CRM คิดค้นมาเพื่อช่วยให้การจัดการงานขายได้ดีขึ้นได้แก่
Reminder เซลส์แต่ละคนสามารถตั้งเวลาให้ระบบแจ้งเตือน เพื่อ Follow Up Lead แต่ละคนได้

reminder R-CRM

Lead Transfer กรณีเซลส์ที่ประกบ Lead นั้นๆลาออก หรือเปลี่ยนสายงาน R-CRM สามารถโอนย้าย Lead นั้นๆไปให้เซลส์คนอื่นๆได้เลย

Lead Advertising Integration สามารถเชื่อมต่อกับ Lead Ads ต่างๆได้ ไม่ว่าจะเป็น Facebook Lead, Google Lead

r-widget R-CRM

R-WIDGET Integration เชื่อมต่อกับ1ใน Feature สำคัญของ ReadyPlanet Marketing Platform คือการสร้างช่องทางการติดต่อ หรือ R-WIDGET ที่ทำให้เราสามารถ

  • สร้างแบบฟอร์มติดต่อเพื่อเก็บ Lead
  • Integrate กับ Social Media และระบบส่งข้อความหรือ Instant Messaging อื่นๆได้อีกมากมาย
  • สร้าง Promotion Popup เพื่อสร้างโอกาสในการเก็บ Lead อย่างรวดเร็ว
r-widget-promotion

นอกจากระบบ R-CRM แล้ว ReadyPlanet ยังตอกย้ำความเป็น Marketing Platform จากการมี MarTech Suit อื่นๆ ที่ออกแบบมาตอบสนองการทำการตลาดดิจิทัลครบทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็น

1. R-Web  แพลตฟอร์มสร้างเว็บไซต์ ที่มาพร้อมเครื่องมือการตลาดแบบ All-in-One แค่นี้เราก็สามารถสร้างWebsite เสร็จได้ภายในเวลา 1วัน
2. R-Shop สร้างเว็บขายของแบบ E-commerce พร้อมระบบการตัดจ่ายเงินได้เลย
3. AdPro Dynamic อันนี้เป็น Service ในการบริหารจัดการ Advertising
4. โมบายล์แอพสำเร็จรูป หรือว่า Shappy ที่ทำให้แบรนด์สามารถสร้างApp ได้รวดเร็ว
5. Chatday ระบบ Web Chat ให้เราใช้สื่อสารกับ User
6. Pointspot ระบบบัตรสมาชิกสะสมแต้ม รองรับการทำ CRM Privilege

ทั้งนี้ระบบ R-CRM และ Marketing Platform ตัวอื่นๆที่กล่าวมา ReadyPlanet เปิดให้ใช้งานได้ง่ายผ่าน Web Browser ไม่ต้องลงโปรแกรมให้ยุ่งยาก เพื่อนๆสามารถลงทะเบียนใช้ R-CRM และ Marketing Platform ตัวอื่นๆได้ฟรี เพียงแค่มีบัญชี Facebook, Google Account หรือ Email อื่นๆ

Similar Posts